คู่มือการเลือก Safety Valve ที่เหมาะสมในอุตสาหกรรมต่าง ๆ

คู่มือการเลือก Safety Valve ที่เหมาะสมต่อการใช้งานในอุตสาหกรรม
ลองนึกภาพดูสิว่า ในโรงงานอุตสาหกรรม ที่เต็มไปด้วยเครื่องจักรที่ทำงานอย่างเต็มกำลัง พร้อมด้วยท่อระโยงระยางที่มีแรงดันจำนวนมหาศาล หากไม่มีอุปกรณ์ที่คอยควบคุมปริมาณแรงดันให้อยู่ในเกณฑ์ที่ปลอดภัย จะเกิดสิ่งที่เลวร้ายขนาดไหนเกิดขึ้น แน่นอนว่าเรากำลังพูดถึงเรื่องของ “ความปลอดภัย” เพราะฉะนั้นการเลือก Safety Valve ที่เหมาะสม จึงเป็นสิ่งที่ทุก ๆ โรงงานอุตสาหกรรมควรต้องคำนึงเป็นพิเศษ มาดูกันเลยว่าจะมีวิธีการเลือกอย่างไร แม้ไม่ใช่นายช่างมืออาชีพก็เข้าใจได้ ถ้าคุณอ่านบทความนี้ไปจนจบ

ความเข้าใจสำคัญเป็นอย่างมาก ต่อการเลือก Safety Valve ที่เหมาะสม
การเลือก Safety Valve ที่เหมาะสม แน่นอนว่าจะต้องมี “ความรู้” และ “ความเข้าใจ” เกี่ยวกับเรื่องของระบบแรงดันในโรงงานอุตสาหกรรมอย่างแท้จริง เพราะนี่ไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ ที่จะใช้การเลือกแบบเดาสุ่ม หรือ ใคร ๆ ก็เลือกได้ การที่จะรู้ว่าควรต้องใช้ Safety Valve แบบใด ควรต้องพิจารณาจากปัจจัยความเสี่ยงทั้งหมด คำนวณทุกอย่างมาเป็นอย่างดี เพื่อให้ได้คำตอบว่าควรต้องใช้ Safety Valve ไหนดี เพราะถ้าพลาดในขั้นตอนการคำนวณ แม้จะเพียงจุดเล็ก ๆ อาจทำให้ความเสียหายครั้งใหญ่ตามมาในภายหลังได้นั่นเอง

ปัจจัยสำคัญต่อการเลือก Safety Valve ที่เหมาะสมต่อการใช้งาน

ถ้ามองในแง่ของการลงทุน การเลือก Safety Valve ที่เหมาะสม ปฏิเสธไม่ได้ว่าจะต้องมีเรื่องของ “ต้นทุน” เข้ามาเป็นองค์ประกอบที่ใช้เพื่อการตัดสินใจ ทว่า Safety Valve ไม่ควรเป็นสิ่งที่ถูกตัดสินด้วยราคาเพียงอย่างเดียว เพราะถึงจะสามารถติดตั้งได้ ทำงานได้ แต่อาจไม่ได้เป็นไปตามสิ่งที่ควรจะเป็นในด้านของ “ความปลอดภัย” เพราะฉะนั้นนอกจากเรื่องของต้นทุนของการจัดซื้อเซฟตี้วาล์ว ยังมีปัจจัยที่สำคัญไม่แพ้กันอีกหลายอย่าง ซึ่งเราคิดว่าสำคัญมากที่สุดเสียด้วยซ้ำไป โดยปัจจัยเหล่านั้นก็จะมีตัวอย่างดังต่อไปนี้

• แรงดันของการใช้งาน

  เข้าใจได้ไม่ยากเลยสำหรับเรื่องของ “แรงดัน” เนื่องจากตัว Safety Valve จะมีแรงดันสูงสุดที่สามารถรับได้ ซึ่งควรจะต้องมากกว่าแรงดันภายในระบบตามปกติ (NWP) อยู่เล็กน้อย แต่ก็จะขึ้นอยู่กับระบบที่นำไปใช้ โดยทั่วไปก็อาจจะปล่อยให้เกิดได้ถึง 10% แต่ในบางระบบที่มีความเสี่ยงมากกว่า ก็อาจจะกำหนดเอาไว้แค่ 3% เท่านั้น

• อัตราการระบายของ Safety Valve

  ในสถานการณ์ที่ Safety Valve เปิดออก เนื่องจากมีแรงดันเกินในระบบ “อัตราการระบาย” คือปริมาณของแรงดันที่ระบายออกมาจากวาล์ว ต้องมั่นใจว่าเพียงพอที่จะทำให้แรงดันในระบบลดลงอย่างรวดเร็ว เพราะหน้าที่ของเซฟตี้วาล์วคือการป้องกันอันตรายจากแรงดันอย่างฉับพลัน ไม่เหมือนกับ Relief Valve

• ประเภทของของไหล

  “ของไหล” เป็นคำจำกัดความของสิ่งที่จะถูกระบายออกจาก Safety Valve ได้มากที่สุดแล้ว โดยของไหลจะมีสถานะได้ทั้ง ของเหลว และ แก๊ส ซึ่งเซฟตี้วาล์วแต่ละรูปแบบ ก็เหมาะกับการใช้งานกับของเหลวที่ต่างกัน เช่น ในระบบที่เป็นแก๊ส ก็จะเหมาะกับเซฟตี้วาล์วมีความทนทานต่อแรงดันสูง ๆ หรือ ในระบบที่ใช้กับไอน้ำก็ต้องเป็นเซฟตี้วาล์วที่ทนต่ออุณหภูมิสูง เป็นต้น

• อุณหภูมิในระบบที่ใช้งาน

  สภาพแวดล้อมของการใช้งาน ก็เป็นสิ่งที่ต้องเข้าใจในการเลือก Safety Valve ที่เหมาะสม การต้องเจอกับ “อุณหภูมิ” ไม่ว่าจะ สูงที่สุด หรือ ต่ำที่สุด ส่งผลต่อการทำงานของเซฟตี้วาล์วโดยตรง ควรพิจารณาวาล์วที่ทนต่ออุณหภูมิในระบบได้ โดยเลือกจากวัสดุของวาล์วว่ามีคุณสมบัติทนทานต่ออุณหภูมิในระบบที่ใช้งาน และอย่าลืมตรวจสอบวัสดุส่วนประกอบอื่น ๆ ภายในวาล์ว เพราะได้รับผลกระทบจากอุณหภูมิไม่ต่างกัน

• ประเภทการเชื่อมต่อของวาล์ว

  สุดท้ายอาจจะดูเป็นเรื่องพื้น ๆ แต่ “การเชื่อมต่อ” ของ Safety Valve ก็ไม่ใช่สิ่งที่จะมองข้ามได้เช่นเดียวกัน โดยการเชื่อมต่อของวาล์วนั้นจะมีให้เลือกหลายแบบ ทั้ง แบบเกลียว , แบบหน้าแปลน หรือ ใช้การเชื่อมเข้ากับตัวระบบ ซึ่งการเชื่อมต่อค่อนข้างจะส่งผลต่อการใช้งาน โดยเฉพาะเรื่องของการรั่วไหลบริเวณวาล์ว เช่น การเชื่อมต่อแบบเกลียว เหมาะกับระบบแรงดันต่ำถึงปานกลางเท่านั้น เป็นต้น

ขั้นตอนการเลือก Safety Valve ที่เหมาะสมต่อการใช้งาน

การเลือก Safety Valve ที่เหมาะสม ไม่ใช่แค่เรื่องของการทำกฎระเบียบ แต่มันคือการลงทุนในระยะยาวเพื่อ “ความปลอดภัย” หากทุกอย่างถูกต้องมาตั้งแต่ต้น ระบบก็จะทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ไม่ต้องมาคอยแก้ไขปัญหาจุกจิกกันในภายหลัง และต่อจากนี้คือขั้นตอนการเลือกเซฟตี้วาล์ว ให้เหมาะกับการใช้งาน

• ทำความเข้าใจความต้องการ

  ต้องรู้เสียก่อนว่าจะนำเอาเซฟตี้วาล์วมาใช้เพื่ออะไร ต้องการแรงดันเท่าไหร่ , การระบายเท่าไหร่ , มีอุณหภูมิขณะใช้งานเท่าไหร่ และ ของเหลวในระบบเป็นประเภทใด เป็นต้น

• เลือกประเภทของวาล์ว

  เมื่อมีความต้องการที่ชัดเจนแล้ว ก็ให้เลือกชนิดของเซฟตี้วาล์วที่เหมาะสมกับการใช้งาน ทั้งในส่วนของประเภทของเซฟตี้วาล์ว และ วัสดุของเซฟตี้วาล์ว

• ตรวจสอบมาตรฐานของวาล์ว

  ระหว่างการเลือกซื้อต้องมั่นใจว่า เซฟตี้วาล์วที่กำลังให้ความสนใจ ผลิตได้ตรงตามมาตรฐานสากล เช่น ASME , API หรือ ISO เป็นต้น

• เลือกขนาดของ Safety Valve ให้เหมาะสม

  ควรตรวจสอบว่าขนาดของเซฟตี้วาล์วที่เหมาะสม ควรต้องเป็นขนาดไหน เพื่อให้การใช้งานมีประสิทธิภาพอย่างที่คาดหวังเอาไว้

• ตรวจสอบพื้นที่การติดตั้ง

  สุดท้ายต้องตรวจสอบพื้นที่การติดตั้ง สภาพแวดล้อมเป็นอย่างไร ต้องมีอุปกรณ์เสริมในบริเวณนั้นหรือไม่ และ ที่สำคัญคือจุดที่เชื่อมต่อต้องเหมาะสมที่สุด

บทส่งท้าย