การทำงานของ Safety Valve กับ Relief Valve ต่างกันยังไง ?

เข้าใจให้มากขึ้น Safety Valve กับ Relief Valve ต่างกันยังไง ?
สิ่งของบางอย่าง อาจจะหน้าตาละม้ายคล้ายกัน รวมไปถึงบทบาทหน้าที่ซึ่งอาจจะใกล้เคียงกัน แต่ถ้ามองเจาะลึกในรายละเอียดจริง ๆ แล้วจะเห็นว่ามีข้อแตกต่างกันอย่างชัดเจน และไม่สามารถนำมาใช้เพื่อทดแทนกันได้ในหลาย ๆ กรณี นั่นจึงเป็นเหตุผลที่เราจะมานำเสนอถึงเรื่องราวของ Safety Valve กับ Relief Valve ต่างกันยังไง เนื่องจากเป็นวาล์วที่มีหน้าที่ค่อนข้างใกล้เคียงกัน มาดูกันเลยว่าทั้งสองมีความแตกต่างกันอย่างไร สามารถใช้ทดแทนกันได้หรือไม่ ?

รวมความต่างของ Safety Valve กับ Relief Valve ต่างกันยังไงบ้าง ไปดู !

ก่อนจะไปเจาะลึกว่า Safety Valve กับ Relief Valve ต่างกันยังไง ต้องขอแนะนำก่อนว่า ทั้งคู่ล้วนเป็นวาล์วที่ทำหน้าที่คล้าย ๆ กัน คือการ “ระบายแรงดันส่วนเกินออกจากระบบ” เมื่อปริมาณของแรงดันอยู่ในเกณฑ์ที่กำหนดเอาไว้ จนหลายๆคนเข้าใจว่ามันคือวาล์วชนิดเดียวกัน แต่ ! ในรายละเอียดของการทำงานลึก ๆ แล้ว ยังมีสิ่งที่แตกต่างกันอยู่อีกหลายจุดเลยทีเดียว อาทิเช่น

หลักการทำงาน

ในส่วนของวัตถุประสงค์การใช้งาน ด้านของ Safety Valve ค่อนข้างจะมุ่งเน้นไปที่การระบายแรงดันส่วนเกินในระบบอย่าง “รวดเร็วฉับไว” เมื่อแรงดันมาถึงค่าที่กำหนดเอาไว้ วาล์วก็จะเปิดทันทีอย่างเต็มที่เพื่อระบายแรงดันส่วนนั้นให้เร็วที่สุด เพื่อลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากแรงดันแบบฉับพลัน แต่เมื่อมองมาที่ Relief Valve ก็จะมีการระบายความดันเหมือนกัน แต่จะเป็นการระบายแบบ “ค่อยเป็นค่อยไป” ไม่ได้ปล่อยออกมาพรวดเดียว แม้ว่าแรงดันจะกลับมาอยู่ในเกณฑ์ที่กำหนดเอาไว้แล้ว วาล์วก็จะค่อย ๆ ปิดตัวลง

วัตถุประสงค์การใช้งาน

จุดที่แตกต่างกันอย่างชัดเจนที่สุดของวาล์วทั้ง 2 ชนิด คือ “วัตถุประสงค์การใช้งาน” เนื่องจาก Safety Valve จะมีเป้าหมายหลักคือการจัดการแรงดันส่วนเกิน ซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตราย เมื่อแรงดันเข้าเกณฑ์ที่กำหนดเอาไว้ มีจุดตอบสนองที่คงตัว จะมีการระบายออกในทันทีอย่างรวดเร็ว ต่างจาก Relief Valve ที่จะเน้นในเรื่องของการควบคุมปริมาณของแรงดัน จุดตอบสนองจะปรับแต่งได้ มีการระบายแรงดันอย่างค่อยเป็นค่อยไป จึงไม่เหมาะกับระบบที่มีความอันตรายสูง เสี่ยงต่อการระเบิดอย่างฉับพลัน

ความเหมาะสมของการใช้งาน

เนื่องจากการทำงานที่ค่อยเป็นค่อยไป เลยทำให้ Relief Valve เหมาะกับการใช้งานในระบบที่เป็นของเหลวเสียมากกว่า เพราะจะหลีกเลี่ยงการเกิดความผันผวนของแรงดัน จนเกิดปฏิกิริยา Water Hammer ได้เป็นอย่างดี และมักจะไม่ใช้กับระบบที่มีความอันตรายสูง เนื่องจากการทำงานมุ่งเน้นที่ “ควบคุมแรงดัน” เป็นหลัก ซึ่งในระบบที่มีความอันตรายจากแรงดันค่อนข้างสูงอย่าง ระบบไอน้ำ หรือ ระบบแก๊ส ที่เสี่ยงต่อการเกิดระเบิด จะเป็นหน้าที่ของ Safety Valve เพราะวาล์วถูกออกแบบเพื่อ “ความปลอดภัย” เป็นหลัก