การจัดการการรั่วไหลใน Pressure Gauge วิธีป้องกันและการบำรุงรักษาที่ถูกต้อง
ในกระบวนการผลิตที่มีการใช้งานแรงดันสูง Pressure Gauge เป็นอุปกรณ์สำคัญที่ช่วยควบคุมและตรวจสอบระดับแรงดันในระบบของไหล การรั่วไหลของแรงดันใน Pressure Gauge นั้นเป็นปัญหาที่พบบ่อยและอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงต่อความปลอดภัยในระบบโรงงานได้ ซึ่งการบำรุงรักษา Pressure Gauge และป้องกันการรั่วไหล รวมถึงการบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอจึงเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาความปลอดภัยในกระบวนการผลิตอย่างต่อเนื่อง
เมื่อการรั่วไหลใน Pressure Gauge เกิดขึ้น จะส่งผลอย่างไร
การรั่วไหลใน Pressure Gauge ไม่เพียงแต่ลดทอนความแม่นยำในการวัดค่าแรงดัน แต่ยังส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพของกระบวนการผลิต เพื่อให้เห็นถึงความสำคัญของการบำรุงรักษา Pressure Gauge ก่อนอื่นเรามาเข้าใจผลกระทบของการรั่วไหลก่อน ดังนี้
- ความไม่แม่นยำในการอ่านค่าแรงดัน
เมื่อ Pressure Gauge มีการรั่วไหล ค่าแรงดันที่แสดงจะไม่สะท้อนแรงดันจริงภายในระบบ ซึ่งอาจทำให้การควบคุมกระบวนการผลิตคลาดเคลื่อน เช่น ในการผลิตเคมี การที่ค่าแรงดันไม่ตรงกับความจริงอาจส่งผลต่อปริมาณการผลิต คุณภาพของผลิตภัณฑ์ และทำให้เสียทรัพยากรในกระบวนการไปโดยเปล่าประโยชน์ - ความเสี่ยงต่อความปลอดภัยของผู้ปฏิบัติงาน
ในกรณีที่ Pressure Gauge ใช้กับของไหลที่เป็นสารเคมีอันตรายหรือสารที่มีอุณหภูมิสูง การรั่วไหลจะทำให้ของไหลรั่วออกมาและอาจสัมผัสกับผู้ปฏิบัติงาน สารเคมีบางชนิดมีฤทธิ์กัดกร่อนหรือเป็นพิษ ซึ่งอาจทำให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพของผู้ที่อยู่ใกล้เคียง ดังนั้น การควบคุมและป้องกันการรั่วไหลเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ทำงาน - การรบกวนการทำงานของระบบควบคุมอัตโนมัติ
Pressure Gauge ที่เชื่อมต่อกับระบบควบคุมอัตโนมัติ เช่น PLC หรือ SCADA มักส่งสัญญาณแรงดันให้ระบบปรับการทำงานของปั๊มและวาล์วให้สอดคล้องกับแรงดันในระบบ เมื่อเกิดการรั่วไหล ค่าแรงดันที่ไม่ถูกต้องจะทำให้ระบบควบคุมสั่งการผิดพลาด เช่น การเปิดวาล์วเพื่อเพิ่มแรงดันโดยไม่จำเป็น ส่งผลให้การทำงานในระบบเกิดความเสียหายและเกิดการสูญเสียพลังงาน - ความเสี่ยงต่อการระเบิดและไฟไหม้ในระบบแรงดันสูง
ในระบบที่ทำงานด้วยแรงดันสูง การรั่วไหลของของไหลที่เป็นเชื้อเพลิงหรือก๊าซที่ติดไฟได้ เช่น ไฮโดรเจน ก๊าซธรรมชาติ หรือสารเคมีไวไฟอื่น ๆ จะทำให้ระบบมีโอกาสเกิดการจุดติดไฟ ซึ่งอาจนำไปสู่การระเบิดหรือลุกไหม้ได้ทันที การระเบิดหรือไฟไหม้ในโรงงานไม่เพียงก่อให้เกิดความเสียหายต่ออุปกรณ์ แต่ยังส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อความปลอดภัยของบุคลากรและกระบวนการผลิตทั้งหมด - การเพิ่มค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงและการสูญเสียทรัพยากร
เมื่อการรั่วไหลทำให้ Pressure Gauge เสียหาย อาจต้องเสียค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมอุปกรณ์และการหยุดการผลิตเพื่อทำการซ่อมบำรุง รวมถึงการสูญเสียทรัพยากรต่าง ๆ เช่น ของไหลในระบบที่รั่วซึมออกมา นอกจากนี้ยังส่งผลต่อการทำงานของระบบที่ต้องใช้เวลาในการหยุดผลิตและบำรุงรักษานานขึ้น ซึ่งส่งผลต่อการสูญเสียรายได้และกำไร
สาเหตุที่ทำให้เกิดการรั่วไหลใน Pressure Gauge
- การเสื่อมสภาพของซีลและข้อต่อ
ซีลและข้อต่อของ Pressure Gauge มักได้รับผลกระทบจากการใช้งานต่อเนื่องในสภาวะที่มีแรงดันสูงและการสั่นสะเทือนที่เกิดขึ้นเป็นระยะ ซึ่งอาจทำให้เกิดการเสื่อมสภาพของวัสดุ ซีลที่ผลิตจากยางหรือ PTFE เมื่อใช้งานไปนาน ๆ อาจเกิดการฉีกขาดและการหลุดล่อน ทำให้เกิดการรั่วซึมของของไหลที่เชื่อมต่อกับเกจ การเสื่อมสภาพนี้มักจะเกิดขึ้นในสภาวะที่มีอุณหภูมิสูงกว่า 80 องศาเซลเซียส หรือแรงดันสูงเกิน 3,000 psi - ความเสียหายจากการสั่นสะเทือนและการกระแทก
การติดตั้ง Pressure Gauge ในระบบที่มีการสั่นสะเทือนอย่างต่อเนื่องโดยไม่ใช้อุปกรณ์ป้องกันการสั่นสะเทือน เช่น Snubber Valve หรือ Vibration Dampener อาจทำให้ข้อต่อและสปริงภายในเกจเกิดการเคลื่อนหรือบิดเบี้ยวจากตำแหน่งเดิม การสั่นสะเทือนที่มากกว่า 20 Hz ในระยะยาวจะส่งผลให้ชิ้นส่วนภายในเสียหาย ทำให้การปิดผนึกไม่แน่นหนาและเกิดการรั่วซึม - การวัดแรงดันเกินพิกัด
Pressure Gauge ที่ถูกรับ Pressure เกินพิกัดบ่อยครั้งมักทำให้ท่อบูร์ดองและไดอะแฟรมภายในเกจเกิดการบิดเบี้ยวหรือยืดตัว ส่งผลให้การอ่านค่าไม่แม่นยำและเกิดการรั่วไหลในส่วนของซีล ข้อต่อ หรือไดอะแฟรม โดยเฉพาะในระบบที่แรงดันสูงเกิน 1.5 เท่าของขีดจำกัดปกติ เช่น การใช้งานในระบบที่แรงดันเกินกว่า 5,000 psi โดยไม่มีการติดตั้ง Relief Valve หรือ Overpressure Protection อาจทำให้ Pressure Gauge เสียหายโดยถาวร - การกัดกร่อนจากสารเคมีและของไหลอันตราย
การใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีสารเคมีเข้มข้น เช่น สารละลายเกลือกรดหรือด่าง จะทำให้เกิดการกัดกร่อนที่ซีลและข้อต่อ การใช้ Pressure Gauge ที่ทำจากวัสดุที่ไม่ทนต่อสารเคมี เช่น ทองเหลืองหรือเหล็กกล้าทั่วไป จะเสี่ยงต่อการเกิดการกัดกร่อนมากกว่าวัสดุสแตนเลสเกรด 316 หรือ Hastelloy
วิธีการบำรุงรักษา Pressure Gauge เพื่อป้องกันการรั่วไหล
- เลือกใช้วัสดุทนทานที่เหมาะสมกับของไหลและสภาวะแวดล้อม
ควรเลือกใช้ Pressure Gauge ที่ผลิตจากวัสดุที่สามารถทนต่อสารเคมีในระบบ เช่น สแตนเลสเกรด 316 สำหรับของไหลที่มีกรดหรือด่างอ่อน หรือ Hastelloy สำหรับสารเคมีที่มีฤทธิ์กัดกร่อนสูง นอกจากนี้ ซีลที่ทำจาก PTFE หรือ Viton จะช่วยให้สามารถทนทานต่อการใช้งานในสภาวะที่มีสารเคมีเข้มข้นได้ดีขึ้น ลดความเสี่ยงในการเสื่อมสภาพและการรั่วไหลจากการกัดกร่อน - ติดตั้งอุปกรณ์ป้องกันการสั่นสะเทือน
การติดตั้ง Snubber Valve หรือ Vibration Dampener เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยลดการกระแทกและการสั่นสะเทือนในระบบของไหลที่อาจส่งผลต่อ Pressure Gauge การใช้อุปกรณ์เหล่านี้จะช่วยให้ข้อต่อและซีลคงสภาพและทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพในระยะยาว ลดโอกาสของการรั่วซึมในระบบแรงดันสูง - ติดตั้ง Pressure Relief Valve เพื่อควบคุมแรงดันเกิน
ในระบบที่อาจมีการเปลี่ยนแปลงแรงดันอย่างรวดเร็ว ควรติดตั้ง Pressure Relief Valve (PRV) เพื่อช่วยระบายแรงดันที่เกินพิกัดในระบบให้ออกสู่ภายนอกโดยไม่ทำให้ Pressure Gauge เสียหาย PRV ควรตั้งค่าไว้ที่แรงดันที่สูงกว่าระดับปกติของระบบเล็กน้อย เช่น 1.2 เท่า ของแรงดันที่ใช้งานปกติ เพื่อป้องกันการเสียหายและการรั่วไหลที่อาจเกิดขึ้นจากการบรรทุกแรงดันที่สูงเกินพิกัด - ตรวจสอบและเปลี่ยนซีลและข้อต่ออย่างสม่ำเสมอ
ซีลและข้อต่อของ Pressure Gauge ควรได้รับการตรวจสอบและเปลี่ยนทุก 6-12 เดือน โดยเฉพาะในระบบที่มีการใช้งานต่อเนื่องและแรงดันสูง การตรวจสอบนี้จะช่วยตรวจจับการเสื่อมสภาพที่อาจเกิดขึ้นและทำการเปลี่ยนซีลหรือข้อต่อทันทีหากพบว่ามีรอยแตกหรือการรั่วซึม
สรุป
เมื่อเราเข้าใจวิธีการบำรุงรักษา Pressure Gauge และป้องกันอย่างถูกวิธีแล้ว เพียงเท่านี้ปัญหาการรั่วไหลของ Pressure Gauge ก็จะลดน้อยลง ลดโอกาสเกิดอันตรายและข้อผิดพลาดในการทำงานได้อย่างแน่นอน และที่สำคัญที่สุดอย่าลืมเลือก ซื้อ Pressure gauge จากร้านค้าที่ไว้ใจได้ อย่าง UDYSUPPLY นะครับ