Pressure Gauge กับการควบคุมระบบไฟฟ้าในโรงงานอุตสาหกรรม
ในกระบวนการผลิตที่ต้องใช้ระบบควบคุมไฟฟ้าในโรงงานอุตสาหกรรม การควบคุมแรงดันในระบบท่อส่งและการผลิตเพื่อให้มีความปลอดภัยและเสถียรภาพนับเป็นเรื่องสำคัญ อุปกรณ์ Pressure Gauge จึงมีบทบาทสำคัญในฐานะเครื่องมือวัดที่ทำหน้าที่ตรวจสอบแรงดันของระบบท่อและถังเก็บกักของไหล อุปกรณ์นี้ยังทำงานร่วมกับระบบควบคุมไฟฟ้าภายในโรงงานเพื่อให้กระบวนการผลิตเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากแรงดันที่เกินขีดจำกัด
การทำงานร่วมกันระหว่าง Pressure Gauge และระบบควบคุมไฟฟ้าในโรงงานอุตสาหกรรม
- การตรวจวัดแรงดันและส่งสัญญาณควบคุมอัตโนมัติ
Pressure Gauge ในระบบไฟฟ้าโรงงาน มักมีการส่งสัญญาณแบบ 4-20 mA หรือ 0-10 V ซึ่งเป็นมาตรฐานสัญญาณที่นิยมในระบบควบคุมอุตสาหกรรม สัญญาณนี้แปรผันตามค่าแรงดันที่วัดได้ โดย 4 mA มักสื่อถึงแรงดันต่ำสุดที่ตั้งค่าไว้ และ 20 mA สำหรับแรงดันสูงสุด การเชื่อมต่อกับ Programmable Logic Controller (PLC) ทำให้ข้อมูลจาก Pressure Gauge ถูกประมวลผลโดย PLC เพื่อสั่งการอุปกรณ์อื่น ๆ ที่เชื่อมต่อ เช่น วาล์วและปั๊ม โดยสามารถตั้งค่าให้ PLC สั่งปิดวาล์วเมื่อแรงดันถึงระดับที่กำหนด เช่น หากระบบต้องการแรงดันไม่เกิน 200 psi ระบบจะสั่งปิดอุปกรณ์ที่ปล่อยแรงดันเมื่อแรงดันเกินระดับนี้ และ PLC จะสามารถตั้งค่าให้ปล่อยแรงดันกลับมาได้เมื่อค่าลดลงมาสู่ระดับที่ปลอดภัย - การควบคุมการทำงานของวาล์วไฟฟ้าและอุปกรณ์ป้องกัน
ในระบบที่ต้องการการควบคุมแรงดันแบบอัตโนมัติ Pressure Gauge ในระบบไฟฟ้าโรงงาน จะเป็นตัวกำหนดสัญญาณให้วาล์วไฟฟ้า (Electrically Actuated Valve) ทำงานตามที่กำหนดไว้ ระบบวาล์วไฟฟ้าเหล่านี้สามารถรองรับแรงดันสูงได้ถึง 6,000 psi และถูกควบคุมโดยสัญญาณจาก Pressure Gauge ผ่าน PLC เพื่อทำงานเปิด-ปิดอัตโนมัติ เมื่อค่าแรงดันเกินที่กำหนด Pressure Gauge จะส่งสัญญาณเตือนให้ PLC สั่งการให้วาล์วปิดในทันที เพื่อลดแรงดันในระบบให้กลับมาอยู่ในช่วงที่ปลอดภัย การควบคุมด้วยวาล์วไฟฟ้านี้มีความสำคัญในอุตสาหกรรมที่ใช้แรงดันสูง เช่น การผลิตก๊าซหรือการกลั่นน้ำมัน ที่ค่าแรงดันเกินกว่าความปลอดภัยสามารถนำไปสู่ความเสียหายรุนแรงได้ - การส่งข้อมูลแบบเรียลไทม์ไปยังระบบ Supervisory Control and Data Acquisition (SCADA)
Pressure Gauge ในระบบไฟฟ้าโรงงาน ที่รองรับระบบ SCADA จะทำให้สามารถควบคุมและตรวจสอบค่าแรงดันแบบเรียลไทม์ได้ โดย SCADA จะรับข้อมูลที่ส่งมาจาก Pressure Gauge ผ่านสัญญาณดิจิทัล Modbus RTU หรือ Ethernet/IP ซึ่งเป็นมาตรฐานสากลที่สามารถส่งข้อมูลได้ครอบคลุมและรวดเร็ว ระบบ SCADA จะช่วยให้ผู้ปฏิบัติงานสามารถตรวจสอบแรงดันในแต่ละจุดของระบบผ่านอินเทอร์เฟซเดียวกันได้ เช่น โรงงานที่ใช้ SCADA สามารถติดตามค่าแรงดันที่มีความสำคัญ เช่น ค่าแรงดันที่อยู่ในระยะห่างระหว่างจุดเชื่อมต่อท่อ เพื่อตรวจหาความผิดปกติและปรับการทำงานของระบบในทันที - การเชื่อมต่อกับระบบเตือนภัยแรงดันเกิน (Overpressure Alarm)
ระบบเตือนภัยแรงดันเกินจะเชื่อมต่อกับ Pressure Gauge ในระบบไฟฟ้าโรงงาน เพื่อให้แจ้งเตือนเมื่อค่าแรงดันถึงขีดที่กำหนดไว้ เช่น เมื่อแรงดันเกิน 3,000 psi ที่ระบบกำหนด ระบบเตือนภัยจะสั่งให้มีการแจ้งเตือนในทันทีทั้งในรูปแบบสัญญาณเสียง แสง หรือข้อความบนจอแสดงผลของ SCADA ผู้ปฏิบัติงานสามารถรับทราบและตรวจสอบได้ทันที ช่วยลดความเสี่ยงของความเสียหายและการหยุดชะงักของการผลิต ระบบเตือนภัยนี้ใช้การตั้งค่าร่วมกับ Pressure Relief Device ซึ่งจะช่วยปล่อยแรงดันออกจากระบบหากพบว่าแรงดันเกินกว่าค่าปลอดภัย โดยตั้งค่าที่ประมาณ 110-120% ของแรงดันสูงสุดที่ใช้งานปกติในระบบ
ปัจจัยสำคัญในการเลือก Pressure Gauge สำหรับการใช้งานในระบบไฟฟ้าในโรงงานอุตสาหกรรม
- ความแม่นยำในการวัดแรงดัน
การควบคุมแรงดันในระบบอุตสาหกรรมที่ต้องการความแม่นยำสูงมักใช้ Pressure Gauge ในระบบไฟฟ้าโรงงาน ที่มีค่าความแม่นยำในระดับ ±0.5% ถึง ±1% ของสเกลเต็ม (Full Scale Accuracy) เพื่อให้สามารถตรวจจับการเปลี่ยนแปลงของแรงดันได้อย่างแม่นยำ ระบบที่ต้องการการควบคุมแรงดันที่ละเอียดมาก อาจใช้ Pressure Gauge ที่มีความละเอียดสูง (Precision Pressure Gauge) เพื่อควบคุมการทำงานของปั๊ม วาล์ว และระบบที่ต้องการความแม่นยำในการผลิตอย่างต่อเนื่อง - รองรับสัญญาณ Analog และ Digital ที่เข้ากันได้กับระบบควบคุม
สำหรับโรงงานที่ใช้งานระบบควบคุมไฟฟ้าและระบบ SCADA การรองรับสัญญาณแบบ 4-20 mA หรือ 0-10 V จาก Pressure Gauge เป็นปัจจัยสำคัญในการส่งข้อมูลที่เสถียรเข้าสู่ระบบควบคุม นอกจากนี้ การรองรับโปรโตคอลการสื่อสารดิจิทัล เช่น Modbus RTU หรือ Ethernet/IP ช่วยให้สามารถควบคุมและตรวจสอบข้อมูลจากระยะไกลผ่านอินเทอร์เฟซ SCADA ได้อย่างมีประสิทธิภาพ - การทนทานต่อแรงดันและสภาพแวดล้อมที่รุนแรง
Pressure Gauge สำหรับการใช้งานในอุตสาหกรรมที่มีการใช้งานแรงดันสูง อาจต้องเลือกอุปกรณ์ที่ทนทานต่อแรงดันเกินระดับที่ใช้งานอยู่ 1.5 ถึง 2 เท่า โดยทั่วไป วัสดุที่แนะนำได้แก่ สแตนเลสเกรด 316 หรือ Hastelloy ที่สามารถทนทานต่อการกัดกร่อนจากสารเคมีในระบบได้ และสามารถรองรับอุณหภูมิสูงสุดถึง 200 องศาเซลเซียส เพื่อให้สามารถใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีอุณหภูมิสูงได้อย่างปลอดภัย นอกจากนี้ ในระบบที่มีแรงดันสูงเกิน 5,000 psi ควรเลือก Pressure Gauge ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับแรงดันที่มากขึ้นโดยเฉพาะ - การติดตั้งอุปกรณ์ลดแรงกระแทกเพื่อยืดอายุการใช้งาน
การใช้งาน Pressure Gauge ในสภาวะที่มีการสั่นสะเทือนหรือการกระแทกสูง ควรเลือก Pressure Gauge ที่ติดตั้งด้วย Snubber Valve หรือ Damper Valve ซึ่งช่วยลดแรงกระแทกจากการเปลี่ยนแปลงแรงดันอย่างรวดเร็วในระบบ ทำให้อุปกรณ์ทำงานได้ยาวนานขึ้นโดยไม่เสื่อมสภาพจากแรงกระแทก ความสำคัญของการติดตั้งอุปกรณ์ลดแรงกระแทกนี้คือการทำให้ชิ้นส่วนภายใน Pressure Gauge เช่น สปริงหรือไดอะแฟรมไม่เกิดการเสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติ
สรุป
หากคุณต้องการ Pressure Gauge ในระบบไฟฟ้าโรงงาน ที่ดีและมั่นใจได้ในเรื่องประสิทธิภาพ ที่ Udysupply เรานำเข้าเฉพาะแบรนด์เกรดมาตรฐานสากล ให้คุณใช้งานในโรงงานอุตสาหกรรมได้อย่างปลอดภัยและไร้กังวล