เลือกแบบไหนดี ? ระหว่างบอลวาล์ว “ก้านสั้น” หรือ “ก้านยาว”

บอลวาล์ว ก้านสั้น และ ก้านยาว แตกต่างกันมากน้อยเพียงใด ?

ก่อนอื่นต้องขอเน้นย้ำตรงนี้เลยว่า หากเป็น Ball Valve ที่มีคุณสมบัติเดียวกัน ใช้วัสดุเหมือนกัน ผลิตจากแบรนด์เดียวกัน ไม่ว่าจะเป็น บอลวาล์วก้านสั้น หรือ ก้านยาว ในเชิงของประสิทธิภาพการใช้งาน แทบจะไม่มีความแตกต่างกันเลยแม้แต่น้อย หน้าที่หลักของมันคือการเป็น “วาล์วเปิดปิด” ที่ทำงานได้อย่างสมบูรณ์แบบ แต่ถ้าเรามาเจาะลึกในส่วนของก้านวาล์ว ว่าควรจะเลือกแบบ สั้น หรือ ยาว แบบไหนดีกว่ากัน ? มาลองเปรียบเทียบจุดเด่นของวาล์วทั้งสองรูปแบบในเนื้อหาต่อจากนี้

• บอลวาล์วก้านสั้น

เริ่มต้นที่ “บอลวาล์วก้านสั้น” แน่นอนว่าจุดเด่นของมันย่อมมาพร้อมกับ ขนาดที่กะทัดรัด เหมาะกับการติดตั้งในบริเวณที่พื้นที่น้อย ที่สำคัญคือราคาจะถูกกว่าแบบก้านยาวเล็กน้อย นิยมใช้กันทั่วไปในอาคารบ้านเรือนทั่วไป ในส่วนของข้อเสียก็มีอยู่บ้าง คือต้องใช้แรงในการเปิดปิดมากกว่าแบบก้านยาว และ หากติดตั้งในมุมอับอาจทำให้การเปิดปิดทำได้ลำบาก อีกหนึ่งจุดเด่นที่หลายคนมองข้าม คือ Ball Valve แบบก้านสั้น สามารถลดความเสี่ยงเวลาที่ติดตั้งในบริเวณที่มีผู้คนเดินผ่านไปผ่านมาบ่อย ๆ เพราะอาจมีคนเดินมาชนก้านวาล์วที่ยื่นยาวออกมาได้

• บอลวาล์วก้านยาว

“บอลวาล์วแบบกั้นยาว” ส่วนมากจะใช้ในระบบท่อที่มีการเปิดปิดบ่อย ๆ มักพบเห็นในโรงงานอุตสาหกรรม หรือ ระบบน้ำทางการเกษตร เป็นต้น จุดเด่นคือใช้แรงในการเปิดปิดที่น้อยกว่า จากความยาวของก้านที่เพิ่มมากขึ้น ถ้าในกรณีที่เป็นวาล์วเกรดเดียวกัน ราคาอาจแพงกว่าบอลวาล์วก้านสั้นเล็กน้อย สามารถควบคุมการไหลได้แม่นยำมากขึ้น จุดด้อยคือต้องติดตั้งเอาไว้ในบริเวณที่มีพื้นที่กว้าง เพื่อให้การเปิดปิดทำได้สะดวก ไม่มีสิ่งของมาขวางเวลาเปิดปิดวาล์ว

บทส่งท้าย