บอลวาล์วใช้ในอุตสาหกรรมไหนได้บ้าง แบ่งจากอะไร ?

บอลวาล์วสำหรับงานน้ำ

เริ่มด้วยคำตอบแรกของข้อสงสัย บอลวาล์วใช้ในอุตสาหกรรมไหนได้บ้าง ? โดยจะขอกล่าวถึง Ball Valve ที่ใช้สำหรับน้ำเป็นอันดับแรก เพราะเจอได้บ่อยที่สุด การใช้งานก็ค่อนข้างหลากหลาย ในทุก ๆ อุตสาหกรรมที่มีน้ำเป็นส่วนประกอบ ก็จะได้พบกับการใช้บอลวาล์วซึ่งรับบทบาทควบคุมการไหลของน้ำ ไม่ว่าจะเป็น น้ำสะอาด หรือ น้ำเสีย สิ่งที่น่าสนใจก็จะเป็นส่วนของอุณหภูมิของน้ำ ถ้าเป็นน้ำอุณหภูมิทั่วไปก็จะไม่ต้องใช้วาล์วที่มีคุณสมบัติพิเศษมาก แต่ถ้าเป็นน้ำร้อนต้องเลือกใช้ บอลวาล์ว ทนความร้อนสูง

บอลวาล์วสำหรับงานลม

คำว่า “ลม” อาจจะดูแล้วไม่ค่อยคุ้นเท่าไหร่ ถ้าปรับเป็นคำว่า “อากาศ” น่าจะเห็นภาพได้ง่ายขึ้น โดย Ball Valve ที่ใช้สำหรับควบคุมการไหลของอากาศ มักจะพบในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับการผลิต หรือ โรงงานที่มีการใช้ระบบ Pneumatic เพื่ออัดอากาศ จุดเด่นของบอลวาล์วที่ถูกนำมาใช้ในอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับลม ก็จะเกิดจากความทนทานของ Ball Valve ซึ่งสามารถทนแรงดันได้สูง และยังมาพร้อมคุณสมบัติที่ไม่รั่วซึมง่าย ทำให้แรงดันภายในระบบไม่ตกอีกด้วย

บอลวาล์วสำหรับงานน้ำมัน

สำหรับอุตสาหกรรมน้ำมัน ปิโตรเคมี หรือ โรงกลั่นน้ำมัน ต่างก็มี Ball Valve สำหรับใช้งานทั้งสิ้น โดยบอลวาล์วที่นำมาใช้กับงานน้ำมัน จะต้องมีคุณสมบัติพิเศษที่ต้านทานการกัดกร่อนได้ดี และ จะต้องทำงานได้ดีในขณะที่ต้องเผชิญแรงดันสูง ที่สำคัญคือห้ามเกิดการรั่วซึมเป็นอันขาด เพราะการรั่วซึมเพียงเล็กน้อยของน้ำมันซึ่งเป็นสารไวไฟ อาจก่อให้เกิดอันตรายที่ร้ายแรงมาก ดังนั้นบอลวาล์วที่ใช้มักจะทำจากโลหะชนิดพิเศษ อาทิเช่น สแตนเลส 316 หรือ เหล็กกล้าเคลือบคาร์บอนพิเศษ และในส่วน Seat Valve ก็มักจะเป็นแบบ PTFE ซึ่งมีความทนทานสูง

บอลวาล์วสำหรับงานแก๊ส

ในส่วนของ Ball Valve สำหรับงานแก๊ส ค่อนข้างจะเป็นงานที่อันตรายที่สุด เมื่อเทียบกับชนิดงานอื่น ๆ ที่ผ่านมา เพราะฉะนั้นในส่วนของบอลวาล์ว เรื่องของความทนทานจะต้องมาเป็นอันดับ 1 เลือกใช้วัสดุที่มีความแข็งแรงสูง ทนต่อแรงดันจำนวนมหาศาลของแก๊สในระบบให้ได้ และต้องป้องกันการรั่วซึมได้อย่างสมบูรณ์แบบ มีการตรวจเช็คคุณภาพของวาล์วมากเป็นพิเศษ ส่วนมากแล้ว Ball Valve ที่ใช้กับงานแก๊ส มักจะพบได้ใน โรงงานพลังงาน , โรงงานผลิตแก๊ส และ โรงงานผลิตไฟฟ้าที่ใช้เชื้อเพลิงเป็นแก๊สธรรมชาติ เป็นต้น

บอลวาล์วสำหรับงานเคมี

สุดท้ายจะขอกล่าวถึง Ball Valve สำหรับงานเคมี แน่นอนว่าจะต้องพบได้ใน อุตสาหกรรมเคมีภัณฑ์ต่าง ๆ และ โรงงานสำหรับผลิตสี หรือ ในทุก ๆ โรงงานที่มีการใช้สารเคมีเข้ามาเกี่ยวข้อง บอลวาล์วมักจะได้รับหน้าที่ในการควบคุมการไหลของสารเคมี ไม่ว่าจะเป็นการเปิดปิดการไหล ไปจนถึงการควบคุมเส้นทางการไหล คุณสมบัติของบอลวาล์วในงานประเภทนี้ จะต้องทนทานต่อฤทธิ์ในการกัดกร่อนของสารเคมีได้ดี และมักจะต้องติดตั้งอุปกรณ์เสริม เพื่อช่วยให้สามารถควบคุมการไหลได้อย่างแม่นยำมากที่สุด

บอลวาล์วสำหรับใช้ในอุตสาหกรรม แตกต่างที่ใช้ในครัวเรือนอย่างไร ?

หลังจากได้ความรู้เบื้องต้น เกี่ยวกับบอลวาล์วใช้ในอุตสาหกรรมไหนได้บ้างกันไปแล้ว สำหรับท่านใดที่ยังมีข้อสงสัยเพิ่มเติม เกี่ยวกับ Ball Valve ที่ใช้ในโรงงานอุตสาหกรรม มีความแตกต่างจาก Ball Valve ที่เราใช้กันในครัวเรือนหรือไม่ ? แน่นอนว่ามันต้องมีความแตกต่างกันอยู่แล้ว แต่จะแตกต่างมากหรือน้อย เราได้นำข้อเปรียบเทียบมาฝากเรียบร้อยแล้ว ดังนี้

• วัสดุที่ใช้ผลิต Ball Valve ในภาคอุตสาหกรรมจะใช้วัสดุที่มีความพิเศษมากกว่า เพราะต้องเผชิญกับสภาพแวดล้อมที่เลวร้าย ทั้ง ความร้อน สารเคมี การกัดกร่อน และ แรงดันที่สูงมาก ไม่เหมือนกับ Ball Valve ในครัวเรือนที่ไม่ต้องเผชิญสิ่งเหล่านี้มากนัก ในบางจุดสามารถใช้บอลวาล์วแบบ PVC ก็ยังได้
• ขนาดของบอลวาล์ว ในครัวเรือนอย่างมากที่สุดก็จะใช้ Ball Valve สำหรับท่อแบบ 1 นิ้วเท่านั้น บอลวาล์วที่นิยมก็จะเป็นแบบเกลียว แต่ในโรงงานอุตสาหกรรมอาจเจอท่อที่มีขนาดสูงถึง 12 นิ้ว พร้อมกับใช้วาล์วแบบหน้าแปลนเสียเป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากแรงดันที่แตกต่างกันอย่างมหาศาล
• ชิ้นส่วนซีล หรือที่เรากล่าวถึงบ่อย ๆ ก็คือ Seat Valve นั่นเอง ในครัวเรือนส่วนมากก็จะเป็นการใช้ในระบบน้ำประปา ซีลของ Ball Valve ก็จะเป็นประเภทยางอย่างเช่น EPDM หรือ NBR ทว่าในโรงงานอุตสาหกรรม จะต้องเป็นซีลที่มีความทนทานเป็นพิเศษ เช่น PTFE , RTFE หรือ Metal Seat เท่านั้น

บทส่งท้าย